จังหวัดเชียงราย จัดพิธีมอบหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 44 ฉบับพระราชทาน ให้แก่โรงเรียนที่ได้รับพระราชทานหนังสือ จำนวน 205 แห่ง
วันนี้ (9 กันยายน 67) นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเชิญหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 44 ฉบับพระราชทาน มอบแก่โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จำนวน 205 แห่ง โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้แทนโรงเรียน ร่วมพิธี ที่หอประชุมโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย เชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
โอกาสนี้ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดกรวยกะทงดอกไม้ธูปเทียนแพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วเชิญหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เล่มที่ 44 ฉบับพระราชทาน วางบนพานเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น ผู้บริหาร ผู้แทนสถานศึกษาเข้ารับหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 44 ฉบับพระราชทาน เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้มูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จัดพิธีมอบหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 44 ฉบับพระราชทาน ในวันนี้
สำหรับหนังสือสารานุกรม พิมพ์ขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ.2516 จนถึงปัจจุบัน รวม 44 เล่ม เป็นสารานุกรมภาษาไทย จัดทำขึ้นเป็นรูปเล่ม โดยมีเนื้อหาบางส่วนเผยแพร่ในระบบออนไลน์ E-Book เป็นสารานุกรมไทย แบบเป็นชุด เน้นความรู้ที่เกิดขึ้นและใช้อยู่ในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยทุกเพศทุกวัย มีโอกาสได้อ่าน แต่ละเล่มรวบรวมเนื้อเรื่องจากหลากหลายสาขาวิชา เนื้อหาของเรื่องต่างๆ เรียบเรียงให้เหมาะสมกับ 3 ระดับความรู้ ได้แก่ เด็กรุ่นเด็ก เด็กรุ่นกลาง และเด็กรุ่นใหญ่ รวมทั้งผู้ใหญ่ทั่วไปที่สนใจ แต่ละเรื่องเริ่มต้นด้วยเนื้อหาของระดับเด็กเล็ก ตามด้วยเนื้อหาของรุ่นกลาง และรุ่นใหญ่ ตามลำดับ เพื่อขยายผลเผยแพร่เรื่องราวของพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดแนวพระราชปณิธาน ให้ประชาชนในทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ได้รับรู้รับทราบ ซึ่งจะทำให้ทั้งผู้ปกครอง ครู อาจารย์ เด็ก และเยาวชน ได้มีโอกาสแสวงหาองค์ความรู้ที่แตกต่างหลากหลายต่อไป