เชียงใหม่…เชียงใหม่นำเสนอผลการศึกษาการเกิดภาวะน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในพื้นที่ต่อคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา
.
บ่ายวันนี้ (25 พ.ย. 67) เวลา 13.30 น. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ที่ ห้องศูนย์ประสานงานการขับเคลื่อนและขยายผล โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำเสนอผลการศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับประเด็นการเกิดภาวะน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อคณะกรรมาธิการฯ พร้อมทั้งรับฟังนโยบายและแนวทางการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาในภาพรวมของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม
.
สำหรับประเด็นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้นำเสนอต่อคณะกรรมการฯ ในที่ประชุม จะเน้นไปที่ 3 ประเด็นหลัก คือ การเร่งฟื้นฟูเยียวยาให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยและภัยพิบัติ , การเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติในพื้นที่ดินโคลนถล่ม และ การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในระยะยาว
.
โดยในส่วนของการเยียวยาผู้ประสบภัย จังหวัดเชียงใหม่ได้ให้การช่วยเหลือ ด้วยการจ่ายเงินเยียวยาตามมติคณะรัฐมนตรี ครัวเรือนละ 9,000 บาท โดยมีผู้ลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือ 84,399 ครัวเรือน ปัจจุบันจ่ายเงินให้ไปแล้ว 73,744 ครัวเรือน เป็นเงินกว่า 663 ล้านบาท ส่วนที่เหลือกำลังเร่งดำเนินการให้ครบทุกราย นอกจากนี้ยังได้ให้การช่วยผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบของกระทรวงการคลัง ทั้งในด้านการดำรงชีพ การบรรเทาสาธารณภัย และภาคการเกษตร , ส่วนด้านการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติในพื้นที่ดินโคลนถล่ม ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการถอดบทเรียนจากสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่มครั้งใหญ่ 3 ครั้ง ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อนำมาเป็นแนวทางแก้ปัญหาทั้งในระยะกลางและระยะยาว และในส่วนของการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติและการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ได้มีการหารือร่วมกับในการวางแผนดำเนินการขุดลอกแม่น้ำทั้งสายหลักและสายรองไม่ให้ตื้นเขิน ทำให้สามารถรองรับน้ำได้มากขึ้น พร้อมทั้งพิจารณาขยายสะพาน ทางระบายน้ำ และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่กีดขวาง เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ รวมถึงมีการทำแนวป้องกันการพังทลายของตลิ่ง และการจัดทำระบบแจ้งเตือนภัยในพื้นที่ต้นน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงหากเกิดภัย
ศูนย์ข่าว 24northernnews เชียงใหม่…รายงาน