เชียงใหม่-ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันต่อเนื่อง หลังพบ 6 จังหวัดค่าฝุ่นเริ่มมีผลต่อสุขภาพของประชาชน
. วันที่ 25 เมษายน 2568 เวลา 09.00 น. ที่ กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ พลตรีชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 เป็นประธานการประชุมภาคีเครือข่ายการบินควบคุมไฟป่าร่วมกับกองทัพอากาศและหน่วยบินต่างๆ เพื่อร่วมกันวางแผนบินลาดตระเวนและพิจารณาเป้าหมายการดำเนินการควบคุมไฟป่า ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ภายหลังช่วงนี้เกิดจุดความร้อนในพื้นที่เพิ่มขึ้นประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนและแล้ง อาจส่งผลกระทบให้เกิดไฟป่าหมอกควันในพื้นที่ได้ ทั้งนี้จากข้อมูลล่าสุดพบว่าจ ในพื้นที่ 17 จว.ภาคเหนือ จำนวน 27 จุด สูงสุดที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 13 จุด รองลงมาคือ จังหวัดลำปางจำนวน 5 จุด และ จังหวัดน่าน จำนวน 3 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 17 จุด รองลงมาคือ ป่าสงวนฯ จำนวน 6 จุด และ พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 3 จุด ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก – เกินเกณฑ์มาตรฐานในขณะนี้ จำนวน 6 จังหวัด สูงสุดที่ ต.เวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน 79.70 มคก./ลบ.ม. (มีผลต่อสุขภาพ) รองลงมาคือ ต.เวียงพาคำ อ.แม่สาย จังหวัดเชียงราย 63.70 มคก./ลบ.ม. และ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่ 54.10 มคก./ลบ.ม. (เริ่มมีผลต่อสุขภาพ)
ทั้งนี้ช่วงบ่ายของวานนี้ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ได้ร่วมกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดอากาศยาน KA-32-01 เข้าควบคุมไฟป่าในพื้นที่เขตป่าสงวนแม่ตุ๋ยฝั่งซ้าย บ้านปางอาย ตำบลเมืองปาน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง โดยบินทิ้งน้ำ จำนวน 7 เที่ยวบิน ทิ้งน้ำ จำนวน 21,000 ลิตร ขณะที่กองทัพอากาศสนับสนุนหน่วยบิน 4611 ฝูงบิน 461 กองบิน 46 จว.พิษณุโลก สนับสนุนอาอากาศยาน บ.ล.2 ก (BT-67) ทิ้งน้ำควบคุมไฟป่า ในพื้นที่ ต.ผาบ่อง อ.เมือง ,อ.ปาย จว.แม่ฮ่องสอน จำนวน 2 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 6,000 ลิตร
ศูนย์ข่าวภาคเหนือ 24northernnews เชียงใหม่